กิจกรรมทางกายประจำบ้าน สำหรับเด็กในยุคชีวิตวิถีใหม่
[Admin] เนื้อหานี้ยังไม่ได้เผยแพร่
ในช่วงระหว่างปี 2555-2562 ผลการสำรวจพบว่ามีเด็กและเยาวชนไทยประมาณ 1 ใน 4 เท่านั้นที่มีกิจกรรมทางกายเพียงพอตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการหามาตรการหลักที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมเพื่อส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายของเด็กและเยาวชนไทย
กิจกรรมทางกายประจำบ้าน สำหรับเด็กในยุคชีวิตวิถีใหม่
คำว่า “กิจกรรมทางกาย” เป็นคำที่แปลมาจากคำว่า “Physical Activity” ในภาษาอังกฤษ ซึ่งหมายถึง การเคลื่อนไหวร่างกาย
ในอิริยาบถต่างๆ ที่ทำให้เกิดการใช้พลังงานจากกล้ามเนื้อโครงร่าง หรือกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ช่วยให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานจำแนก
เป็น 3 หมวดกิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมทางกายในการทำงาน กิจกรรมทางกายในการเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง และกิจกรรมทางกาย
เพื่อนันทนาการ หรือกิจกรรมยามว่าง ในแต่ละช่วงวัยควรมีการออกกำลังกาย ดังนี้
วัยเด็กและวัยรุ่น อายุ 5 - 17 ควรมีกิจกรรมทางกายระดับ ปานกลาง – หนัก และออกกำลังอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์
วัยผู้ใหญ่ อายุ 18 - 59 ควรมีกิจกรรมทางกายระดับ ปานกลาง และออกกำลังอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์
วัยสูงอายุ อายุ 60 ปีขึ้นไป ควรมีกิจกรรมทางกายระดับ ปานกลาง และออกกำลังอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์
จากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ทุคนต้องเก็บตัวใช้เวลาอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ไม่สามารถ
ออกไปไหนมาไหน ได้ตามปกติ ส่งผลให้บ้านกลายเป็นฐานสำหรับการดำเนินชีวิตและประกอบกิจกรรมในหลายๆ อย่าง ด้วยเหตุนี้
จึงเห็นได้ว่ากระแสการออกกำลังกาย จากที่บ้าน หรือที่เรียกกันว่า “Fit From Home” จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นอย่างมาก
เริ่มต้นจากกิจกรรมทางกายในหมวดทำได้ง่ายที่สุด โดยใช้กิจกรรมงานบ้านมาใช้เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ร่างกายได้มีการเคลื่อนไหว
เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้าง่ายๆด้วยมือ ล้างรถ ตกแต่งสวน และปั่นจักรยาน เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมทางกายประจำบ้านสำหรับเด็ก กล่าวคือ เด็กกับ “การเล่น” เป็นของคู่กัน การเล่นของเด็กจะช่วยกระตุ้นสมอง
และส่งเสริมพัฒนาการอย่างเหมาะสมตามช่วงวัย ทั้งในมิติของร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบัน
รูปแบบการเล่นของเด็กๆ มีการเปลี่ยนแปลง ไปค่อนข้างมาก จากที่เคยเล่นผ่านทางการเคลื่อนไหวร่างกาย เปลี่ยนเป็นการเล่นเกม
บนโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ตัวอย่างกิจกรรมต่างๆ ต่อไปนี้ จะเป็นการเล่นออกแรงแบบ Active Play ซึ่งจะช่วย
ทำให้เด็กๆ เกิดความสนุกและได้รับประโยชน์ที่สำคัญๆ 3 ประการ คือ
1. พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ และสังคม เช่น เกมเหยียบลูกโป่ง ร้องรำทำเพลง วิ่งไล่จับ บทบาทสมมุติ เป็นต้น
2. พัฒนาทักษะที่จำเป็นตามช่วงวัย และกระตุ้นการเรียนรู้ เช่น ยืนขาเดียวเก็บของ การเต้นเข้าจังหวะ ขว้างบอล เป็นต้น
3. เสริมความแข็งแรง และป้องกันภาวะโรคอ้วนในเด็ก เช่น การปั่นจักรยาน กระโดดเชือก แบดมินตัน การวิ่ง เป็นต้น
ลิงก์ไปยังเนื้อหา: กดเพื่อเรียกลิงก์