< กลับหน้าแรก

เครื่องมือดูแลใจนักเรียน สำหรับครูมัธยม


เขียนเมื่อ: 28-11-2024 13:28 โดย Marin

วัยรุ่นต้องพบเจอหลากหลายปัญหา สารพัดเรื่องราวระหว่างเส้นทางการเติบโตเข้ามาปะทะอย่างรอบด้าน คุณครูเป็นอีกหนึ่งคนที่ช่วยสนับสนุนให้นักเรียนวัยมัธยมฯ สามารถก้าวไปข้างหน้าพร้อมรับความปั่นป่วนภายในและความเปลี่ยนแปลงภายนอกได้อย่างมั่นใจ

เครื่องมือดูแลใจนักเรียน สำหรับครูมัธยม image เครื่องมือดูแลใจนักเรียน สำหรับครูมัธยม image

insKru ร่วมมือกับ Child Impact ชวนคุณครูในคอมมูนิตี้ insKru มาส่งต่อไอเดีย แบ่งปันเครื่องมือสนับสนุนการดูแลใจนักเรียน เพื่อให้คุณครูสามารถจัดการชั้นเรียนได้ดีขึ้นในแบบของตัวเอง และนี่คือ 3 ตัวอย่าง เครื่องมือดีๆ ที่น่าสนใจจากวงคุยออนไลน์ ห้องเรียนฮีลใจ: แชร์เครื่องมือดีๆ แบ่งปันวิธีดูแลใจนักเรียน วันอาทิตย์ที่ 3 พ.ย. 2567 เวลา 09.00 - 12.00 น.

หยุดพักหายใจก่อนไปต่อ

โดยครูพิม-จุฑาเกศ เรืองอาจ โรงเรียนพานพิทยาคม

คุณครูจะทำอย่างไร เมื่อนักเรียนที่เข้ามาปรึกษาปัญหา อยู่ในภาวะที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายหรือโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ครูพิมชวนให้ลองใช้เทคนิคการหายใจเพื่อกลับมาอยู่กับปัจจุบัน ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงชวนนักเรียนหายใจเข้าลึกๆ กลั้นสั้นๆ หายใจออกยาวๆ สัก 3-4 รอบ ก่อนที่คุณครูจะช่วยให้นักเรียนคิดหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง

ครูพิมแนะนำให้เพื่อนครูลองใช้วงล้ออารมณ์ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการช่วยให้นักเรียนเข้าใจความรู้สึกของตนเองมากขึ้น เพราะการเรียกชื่ออารมณ์ที่เกิดขึ้นจะมีส่วนช่วยทำให้อารมณ์นั้นลดระดับความรุนแรงลง นอกจากนี้ครูพิมยังแนะนำให้เพื่อนครูลองชวนนักเรียนฝึกแก้ปัญหาด้วย Nonviolent Communication (NVC) ให้นักเรียนฝึกพูด เพื่อร้องขอให้ผู้ฟังตอบสนองความต้องการและสื่อสารความรู้สึกออกมาได้อย่างเหมาะสม

เข้าใจทั้ง 2 ด้านของการบูลลี่

โดยครูเพชร-พชร วังมี โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

ครูเพชรเล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวในวัยเด็กที่นำเรื่องเล็กๆ ไปเล่าให้ครูฟังแล้วครูรับฟังอย่างดี และให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ไม่มองข้ามว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ทำให้รู้สึกอุ่นใจ ไว้วางใจครู ซึ่งแสดงให้เห็นว่า “ครูมีส่วนสำคัญมากในการยุติการบูลลี่ หรือส่งเสริมการบูลลี่ให้เกิดขึ้นต่อโดยไม่รู้ตัว”

ครูเพชรอธิบายถึงกิจกรรมที่เคยชวนนักเรียนตระหนักถึงความเจ็บปวดจากการบูลลี่ ให้นักเรียนชายเขียนถ้อยคำล้อเลียนนักเรียนหญิง และนักเรียนหญิงเขียนข้อความล้อเลียนนักเรียนชาย จากนั้นนำไปแปะรวมกันไว้บนกระดาน คุณครูสุ่มหยิบคำพูดบนกระดานขึ้นมาอ่าน จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันสะท้อนว่าแต่ละฝ่ายรู้สึกอย่างไร เมื่อเป็นผู้กระทำ และรู้สึกแบบใดเมื่อเป็นผู้ถูกกระทำ โดยอาจมีการต่อยอดให้นักเรียนร่วมกันระดมความคิด ว่าจะป้องกันอย่างไรไม่ให้การล้อเลียนเหล่านี้เกิดขึ้นอีก อ่านแนวทางจัดกิจกรรมของครูเพชรแบบเต็มๆ ได้ที่นี่

3 น้ำยาสร้างแรงจูงใจ

โดยครูสมส่วน-ธีรวัฒน์ พรศรีประเสริฐ โรงเรียนสาธิต มศว องครักษ์

เมื่อนักเรียนมีอาการเบื่อหน่าย ขาดแรงจูงใจในการเรียน ไม่ได้แค่กระทบแค่การสอนในห้องเรียนเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของคุณครูด้วย ครูสมส่วนเชื่อในจิตวิทยาเชิงบวก ที่ไม่ใช่การบังคับ หรือข่มขู่ให้นักเรียนกลัว

ครูสมส่วนแนะนำ 3 น้ำยาสร้างแรงจูงใจในห้องเรียน ได้แก่ น้ำยาอิสระ (Autonomy) ให้นักเรียนมีโอกาสได้เลือกอย่างอิสระ โดยมีคุณครูคอยสร้างตัวเลือกที่เด็กๆ จะได้เรียนรู้อย่างเต็มที่ น้ำยาความสำเร็จ (Competence) ให้คำชื่นชม ไม่ว่านักเรียนจะทำเรื่องเล็กน้อยเพียงไหน การทำให้นักเรียนมองเห็นศักยภาพในตัวเอง ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างเห็นได้ชัดเจน และสุดท้ายน้ำยาความสัมพันธ์ (Relatedness) ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของห้องเรียน


แคมเปญ

  • ห้องเรียนอุ่นใจ

หมวดหมู่

  • สุขภาพจิต

ผู้ใช้ความรู้

  • ผู้บริหารสถานศึกษา
  • ครู

กลุ่มเป้าหมาย

  • มัธยมศึกษาตอนต้น
  • มัธยมศึกษาตอนปลาย