บ้าน วัด โรงเรียน พลวัตในการดูแลสุขภาพของนักเรียน : โรงเรียนวัดปากพิงตะวันตก
เขียนเมื่อ: 14-05-2024 12:42 โดย ศศิตา ปิติพรเทพิน
“ตำแหน่งที่ครูยืนอยู่มันเป็นจุดที่เหมาะสมที่สุดที่เราจะปล่อยแสงสว่างออกจากตัว แล้วอดทนรอคอยให้ต้นอ่อนเหล่านี้งอกงามขึ้นมาเอง เราไม่ต้องไปกังวลว่าเขาจะไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดี เด็กก็เหมือนต้นไม้ พวกเขาโตเข้าหาแสงเสมอ” -หนังสือเด็กน้อยโตเข้าหาแสง-









ปัจจุบันเด็กมีความเครียดทั้งจากที่โรงเรียนและที่บ้าน การถูกล้อเลียน บูลลี่ กลั่นแกล้ง ปัญหาเรื่องเพื่อน ปัญหาด้านการเรียน รวมถึงครอบครัวที่พ่อแม่ออกไปทำงานที่อื่น เด็กจึงอยู่กับปู่ย่าตายาย เกิดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย ประกอบกับช่วงวัยรุ่นเป็นวัยที่เปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กเป็นผู้ใหญ่ จึงเป็นวัยที่ต้องการความรักความเข้าใจ ต้องการเพื่อน ต้องการสังคม เด็กบางคนจึงหันไปติดยาเสพติด ติดเพื่อน ปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพจิตของเด็ก ทำให้เกิดความเครียด ซึมเศร้า เก็บตัว แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องสุขภาวะของเด็กนักเรียน ยังมีความแตกต่างหลากหลายและมีความซับซ้อนมากกว่าที่ตาเห็น การดูแลหรือพัฒนาเด็กแต่ละคน ทางโรงเรียนจึงต้องใช้ความรู้ ทักษะเครื่องมือที่หลากหลาย เหมาะกับเด็กแต่ละคน
โรงเรียนวัดปากพิงตะวันตก จ.พิษณุโลก เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่มีการนำความรู้ เครื่องมือ ที่หลากหลาย มาปรับใช้เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียน
นางสาวกิติยา ทองแถมนาก ผู้อำนวยการโรงเรียน เล่าว่า “การที่โรงเรียนต้องแสวงหาและเรียนรู้เครื่องมือในการดูแลนักเรียนที่หลากหลาย ไม่ยึดติดเพียงเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่ง เพราะปัญหาของเด็กมีความแตกต่างกัน บางคนอาจจะมีปัญหาครอบครัวแต่เขาเลือกที่จะเก็บไว้ ไม่พูด เงียบ เราก็ต้องหาเครื่องมืออื่น ๆ มาให้เขาได้สื่อสาร เช่น การวาดรูประบายสี”
เครื่องมือที่ทางโรงเรียนเลือกใช้ดูแลนักเรียนมีหลายเครื่องมือ ได้แก่
-
จิตศึกษา เป็นกระบวนการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์และจิตวิญญาณ โดยการให้เด็กรู้จักอารมณ์เชิงบวกและเชิงลบ หากเด็กมีอารมณ์เชิงลบเกิดขึ้นกับตัวเอง เด็กจะสามารถจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้
-
ศิลปะบำบัด เป็นเครื่องมือในการพัฒนาด้านจิตใจและการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ครูอาจจะใช้เทคนิคการปั้นดิน หรือการวาดภาพ เพื่อให้นักเรียนสะท้อนความคิด ความรู้สึก
-
PBL หรือ Problem Based Learning เป็นการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ทางโรงเรียนจะให้นักเรียนแต่ละห้องเสนอความคิดว่าอยากจะทำฐานความรู้เรื่องอะไร เช่น หน่วย Around the World เป็นการเรียนรู้เรื่องราวของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก หน่วยมนต์รักปากพิง เป็นการเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของชุมชนวัดปากพิง หน่วย Line เส้น เซ่น เป็นการเรียนรู้เรื่องเส้นเรขาคณิต รวมถึงเส้นต่าง ๆ อย่างเส้นก๋วยเตี๋ยวด้วย
-
จุดแข็ง หรือ Character Strength เป็นการสร้างอุปนิสัยเชิงบวกในการรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
ครูเนตรทราย ทองเศรษฐีได้กล่าวว่า “การใช้เครื่องมือจุดแข็งจะช่วยในกรณีที่หากเด็กเกิดอารมณ์เชิงลบ เด็กจะสามารถเลือกวิธีการที่กำจัดอารมณ์เชิงลบของเขาได้ โดยมีคุณครูคอยให้คำแนะนำ"
-
จุดแข็งจะช่วยให้เด็กรู้จักจุดแข็งของตนเอง จุดแข็งของเพื่อน และจุดแข็งของห้องเรียน โดยครูจะตั้งคำถามให้เด็กวิเคราะห์จุดแข็งของตัวเอง หรือของเพื่อน เมื่อจบกิจกรรมจะมาสะท้อนกิจกรรมร่วมกัน ในห้องเรียนของครูจุฑาทิพย์ ระลึกจิตตระกูล หรือครูอิง ครูอิงจะให้นักเรียนดูการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน แล้วลองถามเด็ก ๆ ถึงจุดแข็งของโนบิตะและไจแอนท์ จากนั้น ครูอิงจะให้นักเรียนลองบอกจุดแข็งของตนเอง และบอกจุดแข็งของเพื่อน กิจกรรมนี้ทำให้เด็กรู้สึกดีที่เพื่อน ๆ เห็นจุดดีของตนเอง และทำให้นักเรียนรู้จักกันมากขึ้น
-
สมุดไดอารี่ เป็นกิจกรรมที่ครูอิง ได้ปรับจากการให้เด็กเขียนสมุดไดอารี่ของป้ามล ทิชา ณ นคร มาให้เด็ก ๆ ได้เขียนความรู้สึก ปัญหา ความคิดประจำวัน หลังกิจกรรม AAR สมุดไดอารี่เล่มเล็กจะถูกแจกให้เด็กแต่ละคน เพื่อให้เขียนเรื่องราวของตนเอง เด็ก ๆ อาจจะเพียงแค่เล่าเรื่องราวที่พบเจอในวันนั้น หรืออาจจะเล่าถึงปัญหาที่เจอ หรือเล่าความคิดความฝันของตัวเอง ครูอิงจะเขียนตอบกลับลงในสมุดไดอารี่ของเด็ก ๆ ทุกคน โดยคนที่อ่านสมุดเล่มนี้จะมีเพียงแค่ครูอิงและเจ้าของสมุดไดอารี่เท่านั้น เพื่อให้เด็กรับรู้ถึงความใส่ใจจากครู
-
บอร์ดเกมออกกำลังใจ เป็นเครื่องมือที่ครูเนตรทราย ทองเศรษฐีออกแบบเพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักเรียนเปิดใจเล่าเรื่อง หรือสะท้อนมุมคิดผ่านการเล่นเกม โดยที่ครูเนตรทรายจะร่วมเล่นเกมหรือสังเกตการณ์ร่วมกับนักเรียนด้วย ซึ่งบอร์ดเกมออกกำลังใจนี้ ได้รับรางวัลชมเชยในการประกวดสื่อของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ด้วย
โรงเรียนให้ความสำคัญกับการพัฒนาครูและบุคลากรในโรงเรียน ด้วยการไปอบรมความรู้ เทคนิค และเครื่องมือจากเครือข่ายต่าง ๆ ซึ่งหลังจากการอบรม ครูจะนำความรู้ที่ได้มาออกแบบใช้กับการเรียนการสอน เมื่อเกิดปัญหาอุปสรรค ครูจะนำมาปรึกษาร่วมกันกับคณะครูและผู้อำนวยการโรงเรียนผ่านวงพูดคุยแลกเปลี่ยนของครู (Professional Learning Community : PCL) นอกจากการปรึกษาหารือแล้ว ยังเติมเต็มความรู้ เทคนิคเครื่องมือ เช่น ปัญญา 3 ฐาน องค์ประกอบมนุษย์ (Human Being) เป็นต้น
ครูเนตรทราย กล่าวถึงการนำความรู้มาใช้กับการเรียนการสอนว่า “หลังจากการอบรม ครูจะนำหลักการต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ พร้อมกับสอดแทรกความรู้ไปให้เขาด้วย ทำให้ครูเข้าถึงตัวนักเรียนและรู้สึกว่าการเรียนการสอนมันง่ายขึ้น เด็กก็เพลิดเพลินกับชิ้นงาน”
กิจกรรมที่ใช้ในการดูแลนักเรียนที่สำคัญอีกหนึ่ง คือคลินิก save zone หรือ นักเรียนแกนนำเพื่อนที่ปรึกษา Youth Counselor หรือเรียกสั้น ๆ ว่า นักเรียน YC คือ การพัฒนาแกนนำนักเรียนคอยให้คำปรึกษากับเพื่อน ๆ น้อง ๆ ในโรงเรียนเบื้องต้น โดยจะได้รับการฝึกอบรมทักษะในการให้คำปรึกษาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เมื่อพบนักเรียนที่กำลังเจอปัญหา นักเรียน YC จะเข้าไปพูดคุยสอบถามปัญหาและความต้องการความช่วยเหลือ โดยจะเริ่มถามความรู้สึกและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นจะให้คำปรึกษาคำแนะนำเบื้องต้น หากปัญหามีความยากหรือซับซ้อน จะส่งต่อไปให้ครูช่วยแก้ไข
น้องวรรณิดา สามโพธิ์ศรี และน้องรัญชนา วงษ์แก้ว ตัวแทนของนักเรียน YC เล่าให้ฟังว่า “ครูจะอบรมขั้นตอนในการเข้าไปดูแลเพื่อน ๆ ค่ะ ขั้นแรกคือการสร้างสัมพันธภาพ ให้เราถามเขา ในเรื่องปกติก่อนเพื่อทำให้เขาวางใจ ขั้นต่อไปคือการสำรวจปัญหา ขั้นที่สามคือการหาแนวทางการแก้ปัญหา ขั้นที่สี่คือ การวางแผนการแก้ปัญหา ส่วนขั้นที่ห้าคือยุติการแก้ปัญหา เทคนิคที่พวกเราใช้ เช่น การใส่ใจ การฟัง การเงียบ การทวนซ้ำ การสะท้อน การสนับสนุน การกำลังใจ และการสรุปผลค่ะ”
เรื่องที่นักเรียน YC มักจะพบเจอปัญหาและให้คำแนะนำ เช่น การถูกบูลลี่ การล้อชื่อพ่อแม่
ตัวแทนนักเรียน YC “เหตุการณ์เมื่อปีที่แล้วค่ะ น้อง ม.1 โดนล้อชื่อพ่อแม่ แล้วเขาก็มานั่งร้องไห้ พวกเราเห็นเลยเข้าไปสอบถาม โดยเริ่มจากการถามความรู้สึกของน้องก่อน หลังจากนั้น ให้น้องค่อย ๆ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์นี้น้องเพียงต้องการคนรับฟังปัญหา พวกเราเลยรับฟัง”
นอกจากปัญหาเรื่องการถูกบูลลี่แล้ว นักเรียนยังปรึกษาเรื่องอื่น ๆ ด้วย เช่นการเรียนต่อ
น้องธนชาติ สิงหเดช หนึ่งในนักเรียน YC เล่าว่า “มีน้อง ป.6 เข้ามาปรึกษาผมว่า เรียนต่อที่ไหนดี ผมจึงถามความต้องการของน้องว่า อยากเรียนต่อสายอาชีพหรือสายสามัญ น้องอยากเรียนสายสามัญ ผมจึงให้น้องลองหาโรงเรียนในใจก่อนและศึกษาว่าโรงเรียนนั้นมีวิชาการที่ต้องการเรียนไหม และหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมให้ปรึกษาครู น้องก็ทำตามที่ผมแนะนำครับ”
นอกจากการดูแลนักเรียนในโรงเรียนแล้ว โรงเรียนได้เชื่อมให้ผู้ปกครองและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลเด็ก ในส่วนของผู้ปกครอง โรงเรียนได้จัดทำ Community of Practice หรือ CoP ผู้ปกครอง เป้าหมายของการทำ CoP ผู้ปกครอง คือ ต้องการให้ผู้ปกครองเข้าใจกระบวนการพัฒนาเด็กที่โรงเรียนกำลังทำอยู่ เพื่อให้ผู้ปกครองรับรู้ เข้าใจและนำไปใช้การดูแลลูกหลานที่บ้านได้ โดยโรงเรียนจะใช้เวลาช่วงเย็นที่ผู้ปกครองมารับลูกหลานกลับบ้าน ขอประมาณ 1 ชั่วโมง กระบวนการจะเริ่มจากการเล่าผลการเรียนจากหน่วยเรียนรู้ PBL จากนั้น ครูจะใช้การสะท้อนคิดผ่านสื่อต่าง ๆ อาทิเช่น นิทาน คลิปวิดิโอ เพื่อให้ผู้ปกครองเชื่อมโยงและสะท้อนคิดถึงการดูแลลูกหลานของตนเอง
-
พอฟังนิทานจบ ครูก็ลองให้ผู้ปกครองชื่อชมลูกหลาน บางคนไม่เคยชื่นชมก็นึกไม่ออก บางคนก็ร้องไห้ บอกว่าสิ่งที่เกิดในนิทานคือตัวเขาที่ทำกับลูก กระบวนการ CoP ผู้ปกครองจึงเสมือนเป็นการเขย่าจิตใจภายในของผู้ปกครอง ผอ. ก็เชื่อว่าการทำแบบนี้มีส่วนปรับแนวคิด หรือวิธีการเลี้ยงดูลูกหลานของผู้ปกครองได้บ้าง
จากนั้น ครูจะให้เทคนิควิธีการดูแลลูกหลาน เช่น เทคนิคการฟัง ความเข้าใจธรรมชาติของวัยรุ่นและเด็กแต่ละช่วงวัย การสื่อสารเชิงบวก การเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง หากมีอารมณ์เชิงลบจะมีวิธีจัดการอย่างไร เป็นต้น ในการให้เทคนิคความรู้ ทางโรงเรียนก็จะใช้ภาษาพูด เนื้อหาสั้น ๆ ง่าย ๆ เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจ
โรงเรียนได้รับความร่วมมือจากชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ ในการดูแลเด็ก เช่น ผู้นำชุมชน รพ.สต. งิ้วงาม อบต. งิ้วงาม สถานีตำรวจภูธรวังน้ำคู้ วัดปากพิงตะวันตก มหาวิทยาลัยนเรศวร และนักจิตวิทยาจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1 หน่วยงานต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลเด็กทั้ง การเสริมทักษะอาชีพ ทักษะชีวิตและวัฒนธรรมพื้นถิ่น ด้านความปลอดภัย ด้านการเฝ้าระวังป้องกัน เช่น การตรวจสุขภาพ การตรวจความเสี่ยงเรื่องสารเสพติด เป็นต้น
-
การดูแลเด็กหนึ่งคนมีการเปลี่ยนแปลงตามบริบทของสังคมตลอดเวลา ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือ ภาคีเครือข่าย และแหล่งเรียนรู้ในประเด็นต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ ที่ครูเนตรใช้ประจำคือ ChildImpact.co ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ช่วยให้เราสืบค้นองค์ความรู้ต่าง ๆ อย่างครูเนตรสนใจประเด็นสุขภาพจิตค่ะ นอกจากนี้ ยังมี workshop ออนไลน์อย่าง Health Talk ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครูเครือข่าย ได้นำความรู้จากเวทีมาประยุกต์ใช้กับโรงเรียน มีแบบประเมินความสุขของนักเรียน แบบประเมินทุนชีวิตของนักเรียน แบบประเมินสุขภาวะของนักเรียน